โปรโมเตอร์หมาน้อย ขอความเป็นธรรมให้ บรรลือฤทธิ์ ทุกฝ่ายรู้ข้อเท็จจริงบรรลือฤทธิ์ ถูกไล่เพราะรู้ตัวไม่กี่วัน ต้องลดน้ำหนักเยอะถึง 7 กก.ทำให้ร่างกายฟื้นไม่ทัน
โปรโมเตอร์หมาน้อย จากประเด็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ รายการศึกมวยดีวิถีไทย+จิตรเมืองนนท์ นัดประจำวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมายังคงเป็นประเด็นที่พูดถึงคู่ที่กรรมการไล่ “บรรลือฤทธิ์ ศิษย์วัชรชัย” ลงจากเวทียกที่ 3 ในการขึ้นชกกับ ฟ้าลั่น พักยก77(ป.เพชรไข่แก้ว) จากเหตุการณ์นี้กลายเป็นประด็นดราม่าเกิดขึ้นมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการล้มมวยบ้าง ต่างพูดกันไปต่างๆนาๆ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้สอบถามไปยัง นายภุชงค์ กิจขยัน หรือฉายา “โปรโมเตอร์หมาน้อย อุดร” อดีตโปรโมเตอร์ศึกศิริลักษณ์มวยไทย เวทีมวยลุมพินีหัวหน้าค่ายผู้ผู้ให้การสนับสนุน บรรลือฤทธิ์ ได้ชี้แจงเรื่องนี้ว่า อยากขอความเป็นธรรมให้กับบรรลือฤทธิ์นักมวยที่ตนให้การสนับสนุนดูแลอยู่ไม่มีการล้มมวยเกิดขึ้นแน่นอน
“สาเหตุที่นักมวยโดนไล่ลงจากเวทียอมรับว่าผมและทีมงานเจ็บปวดหัวใจทุกคน สาเหตุทีมงานทุกคนทราบดีว่าเกิดจากอะไร มีปัจจัยเกิดจากสาเหตุหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลดน้ำหนักให้ได้ถึง 7 กิโลกรัมภายในระยะเวลา 5 วันก่อนขึ้นชก ซึ่งเป็นระยะเวลาที่น้อยเพราะรู้ตัวแค่ไม่กี่วัน จึงทำให้นักมวยต้องหักโหมจนทำให้สภาพร่างกายอ่อนล้าไม่มีแรงไม่มีความพร้อมที่จะขึ้นชกแต่ที่ปล่อยให้นักมวยต้องขึ้นมาชกในรายการก็เพราะว่าต้องการช่วยรายการเพื่อไม่ให้รายการเสีย” โปรโมเตอร์หมาน้อย อุดร กล่าว
เรื่องนี้จริงๆแล้วทางทีมงานรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนชกครับเพราะทางทีมงานผู้จัดคุณเทพ ธรรมะ ได้โทรศัพท์มาขอ บรรลือฤทธิ์ให้ขึ้นชกกับฟ้าลั่น เพราะฟ้าลั่นไม่มีคู่ชกและไม่ได้ขึ้นชกมานาน โดยขอน้ำหนักให้บรรลือฤทธิ์ ต่อ 2 ปอนด์ 110 ปอนด์ กับ 112 ปอนด์ ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ประสานทางวัชรชัยผู้สนับสนุน บรรลือฤทธิ์
ว่าจะชกได้หรือไม่ทางคุณเทพ ธรรมะขอมาเพราะบรรบือฤทธิ์ต้องลดน้ำหนักถึง 7ปอนด์ ภายในเวลา 5 วัน โดยทางคุณเทพ ธรรมะได้โทรศัพท์มาบอกเมื่อวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม รายการชกในวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม ก็ถือว่าเป็นงานใหญ่พอสมควรเกี่ยวกับเรื่องลดน้ำหนักของ บรรลือฤทธิ์และเรื่องนี้จริงๆแล้วทางอาจารย์สุรัตน์ ที่ดูแลการฟิตซ้อมของเด็กเองก็ไม่อยากให้ชกเพราะว่าการเตรียมตัวน้อยลดน้ำหนักเยอะกลัวว่าเด็กจะไม่ไหว
โปรโมเตอร์หมาน้อยอุดร กล่าวว่า ที่บรรลือฤทธิ์ไปชกนั้นก็เป็นเพราะเห็นใจและก็อยากช่วยรายการเพราะช่วงที่ผ่านมาช่วงโควิด ก็มีนักมวยถอนตัวอยู่บ่อยๆ นักมวยติดโควิดบ้าง นักมวยอยู่ในกลุ่มเสี่ยงบ้างและที่สำคัญตัวเองก็เป็นหนึ่งในทีมงานของคนจัดมวยรายการนี้ด้วยก็อยากช่วยรายการ
ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี
ในวันที่ขึ้นชก บรรลือฤทธิ์ มีน้ำหนักเกินอยู่ 2 กิโลกรัมหลังจากลดจากค่ายมา 5 กิโลกรัมแล้ว ซึ่งนักมวยก็บอกว่าทำน้ำหนักได้จะทำให้ดีที่สุดแต่ก่อนขึ้นเวที บรรลือฤทธิ์บอกว่าสภาพร่างกายไม่ฟื้นอาจจะชกได้แค่2ยก ซึ่งเรื่องนี้ทางทีมงานก็บอกกับทีมงานคนจัดให้ทราบข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนั้นมันไม่ทันแล้วเพราะถ้าถอนชกเพราะถ้าถอนก็จะทำให้ทางรายการเสียหาย
ซึ่งตนเข้าใจ อีกทั้งไม่ได้ถ้ายทอดสดด้วย และคิดว่าคงไม่ได้เล่นกัน อีกทั้งก็คิดว่าถ้าขึ้นชกอาจจะมีลุ้นน็อกช่วงสั้นๆได้ แต่สุดท้ายปรากฎว่า บรรลือฤทธิ์ กลับโดนกรรมการไล่ลง ถ้าหากกรรมการรู้ข้อเท็จจริงอาจจะไม่ไล่เด็กลงเวทีก็ได้ เรื่องนี้ทางทีมงานก็ประสานทางซ้อเอ๋ กับข้อเท็จจริงต่างๆก่อนชก ส่วนที่ขึ้นชกก็เพราะต้องการแก้ปัญหาไม่ให้รายการเสียหาย
โปรโมเตอร์หมาน้อยอุดร กล่าวว่า อยากขอความเป็นธรรมให้กับนักมวยไม่ได้ล้มมวย ที่ผ่านมาวงการมวยประสบวิกฤติโควิท เราคนวงการมวยก็ต้องช่วยกันทุกๆฝ่ายเพื่อให้มวยเดินต่อไปได้บางครั้งตนส่งนักมวยไปช่วยหลายคนถ้ามีการขอมาเพื่อให้รายการมวยเดินต่อได้
เช่นวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตนก็ได้เอานักมวยในค่ายไปช่วย 3 คนด้วยกัน มี ซ้ายโคราช ศิริลักษณ์มวยไทย แก้วกังวาล พริ้ววาโย และบรรลือฤทธิ์ ก็เพราะต้องการช่วยให้รายการผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งยุคนี้เป็นยุคที่ต้องช่วยเหลือกัน ก็อยากขอความเห็นใจในประเด็นนี้และขอความเป็นธรรมให้นักมวยด้วย
อ่านข่าวมวยมาใหม่ >>> ข่าวมวย
