นักมวยไทยในอดีต

นักมวยไทยในอดีต 5 ยอดนักมวยผู้บุกเบิกการชกมวยบนเวทีใหญ่ในอดีต

นักมวยไทยในอดีต ยอดนักชกมวยไทยที่มีชื่อเสียงจนกลายเป็นตำนานในปัจจุบันลำดับที่1 ปล่อง จำนงทอง ฉายา หมื่นมวยมีชื่อ ประวัติมวยไทยในอดีต

นักมวยไทยในอดีต เป็นศิษย์เจ้าผู้ครองเมืองไชยา เป็นพระยาวัยวุฒิวิเศษฤทธิ์ ซึ่งถัดมาได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น พระยาวจีสัตยารักษ์ เป็นนักมวยที่มีชื่อในยุครัชกาลที่ 5 จนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ ความเป็นมาคร่าวๆได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจากสมเด็จพระปิยะมหาราช รัชกาลที่ 5

ให้เป็น หมื่นมวยมีชื่อ เพราะเหตุว่าได้เป็นผู้ชนะมวยฝีมือเยี่ยม ศิษย์พระเหมสมาหาร เจ้าผู้ครองเมืองโคราช โดยการทำการต่อสู้ กันในงานเมรุมาศกรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ในท้องทุ่งสุเมรุด้านใกล้ๆกับป้อมเผด็จดัสกร ก็โปรดเกล้าฯ ให้นักมวยความสามารถดีต่อยชนะได้รับการแต่งให้เป็นที่ (เจ้าหน้าที่รัฐชั้นประทวน) “ หมื่นมวยมีชื่อ” (ปลอง จำนงค์ทอง)

ประวัติมวยไทยในอดีต เป็นนักมวยจากไชยา แล้วก็ “หมื่นมือแม่นหมัด” ที่บ้านทะเลชุบศร จังหวัดลพบุรี กับอีกผู้หนึ่งได้เป็น หมื่นชงัดเชิงชก (แดง ไทยประเสริฐ) ที่เมืองโคราช หรือนครราชสีมา เจ้าหน้าที่รัฐชั้นประทวนทั้งยังสามท่านนี้ได้รับบุญคุณโปรดเกล้าฯไม่ต้องเสียส่วยสาอากร กระทั่งทำความผิดก็ให้กรมการบ้านเมืองตรึกตรองลดโทษ

นับเป็นความกระหยิ่มใจของคนทั่วทั้งเมืองไชยาและก็บุตรหลานของเชื้อสาย “จำนงค์ทอง” ได้เป็นผู้แทนของคนไชยาและก็ได้นำเกียรติยศอันสูงศักดิ์มาสู่เมืองไชยา การฝึกฝนมวยให้กับลูกศิษย์ของท่าน ส่วนมากท่านจะรอนั่งดูและจะเสนอแนะให้นอกเหนือจากที่จะไม่สบอารมณ์ 

แค่นั้นท่านก็เลยจะลงมาสวมนวมฝึกซ้อมให้เอง แต่ว่าไม่ค่อยมีคนไหนกันกล้าฝึกกับท่าน เพราะเหตุว่าการซ้อมกับท่านจำต้องทำจริงโดยท่านจะเป็นศิลปินทางแก้เล่ห์เหลี่ยมมวยแต่ละอย่างให้พร้อมทั้งยังการโจมตีเข้าทำ

ด้วยเหตุว่าท่านเป็นผู้ที่มีความรวดเร็วสำหรับในการเข้าออกสำหรับในการต่อสู้ และเข้ามวยได้อีกทั้งซ้ายและก็ขวา ศิษย์ของท่านจำต้องเข้ามวยได้ทั้งสองข้าง หากคนใดกันแน่เข้ามวยเพียงแต่ด้านเดียวแล้ว จำนวนมากจะได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษ

 

นักมวยไทยในอดีต

 

นักมวยไทยในอดีต ยอดนักชกมวยไทยที่มีชื่อเสียงจนกลายเป็นตำนานในปัจจุบันลำดับที่2 ทับ จำเกาะ ชื่อนักมวยไทย ดังๆ

เป็นนักมวยไทยชำนาญจากจังหวัดนครราชสีมา ถูกส่งตัวเข้ามาต่อยในจ.กรุงเทพฯในสมัยเวทีสวนกุหลาบเมื่อ พุทธศักราช 2464 เพื่อคิดเงินซื้อปืนให้กองเสือป่า การเดินทางเข้ามาชกมวยของนายทับคราวนั้นได้สร้างชื่อเป็นที่เล่าขานในแวดวงมวยสมัยนั้นว่า “หมัดนายจีน ตีนนายทับ”

เมื่อเข้ามาชกมวยในจังหวัดกรุงเทพมหานคร กรมหลวงชุมพรฯรับมาเลี้ยงให้เข้าพักในวังเปรมสามัญชน นายทับขึ้นสังเวียนหนแรกกับนักมวยจากจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งปรากฏว่านายทับเตะเป็นชุด จนถึงนักมวยจากมหาสารคามลุกไม่ขึ้น ยอมยกธงขาวเพียงแค่ยกแรก ชื่อนักมวยไทย ดังๆ

จากชัยในทีแรก ฝ่ายผู้จัดการแข่งได้เลือกเฟ้นนักมวย ขึ้นสู้กับนายทับ หนแรก ม.ร.ว. มานพฯ เสนอบังสะเล็บ ศรไขว้ แต่ว่านายทับไม่สู้ โดยเหตุนั้นก็เลย ตามติดคู่ให้นายทับ เจอกับประสิทธิ์ บุณยารมณ์ ครูพลศึกษาซึ่งนายทับตอบตกลง

ต่อมาเมื่อนายทับทราบคราวหลัง ว่าได้คู่กับนายประสิทธิ์ ซึ่งเป็นมวยผู้เรียน บริหารร่างกาย แล้วก็มีชื่อในทางชนะ นักมวยหัวเมืองด้วยอิทธิพล นายทับยอมแพ้ไม่ยินยอม ฝึกซ้อมจนกระทั่ง กรมหลวงชุมพรกล่าวให้หา เมื่อทราบดีว่านายทับ กลัวอิทธิพลก็เลยปลอบประโลมใจ ให้สู้แล้วก็ชักชวน หลวงพ่อศุข วัดมะขามเฒ่า

มาประกอบพิธีแต่งตัว ให้นายทับเพื่อเกิด ขวัญแรงใจ จากนั้นขวัญพลังใจของนายทับ ก็เลยดียิ่งขึ้น ฝึกมวยได้ตามธรรมดา เมื่อถึงวันต่อยที่ สนามแข่งมวยสวนกุหลาบ โดยมีพระยานนทิเสนสุรภักดี แม่กองเสือป่า เป็นคนนำเป่าปี่ร้องเพลง2 การแข่งขันปรากฏว่า นายทับใช้ท่วงที ในจังหวะที่ประสิทธิ์ต่อยพลาด เข้าเตะประสิทธิ์เป็นชุด ลักษณะเดียวกันกับที่ใช้ สำหรับเพื่อการต่อยหนแรก จนกระทั่งนายประสิทธิ์สลบ โดนจับแพ้ไป รถถัง จิตรเมืองนนท์

 

นักมวยไทยในอดีตยอดนักชกมวยไทยที่มีชื่อเสียงจนกลายเป็นตำนานในปัจจุบันลำดับที่3 ยัง หาญทะเล มวยไทยในตํานาน

ยัง หาญทะเล เป็นชาวโคราช ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของพระเหมสมาหาร ถัดมา เขาได้เดินทางไปชกมวยที่กรุงเทพกับหมื่นชงัดเชิงต่อย, ทับ จำเกาะ, ตู้ ไทยดีที่สุด แล้วก็พูน แรง

ยัง หาญทะเล เป็นเพื่อนของทับ จำเกาะ ซึ่งเป็นนักมวยไทย คาดเชือกร่วมกลุ่มการ ที่ได้รับการเลี้ยงดูจาก กรมหลวงจังหวัดชุมพรเขตรอุสูดดมศักดา ไปฝึกหัดมวยที่วังเปรมพลเมือง จนถึงโด่งดังสิ่งเดียวกัน

กาลครั้งหนึ่ง เมื่อทับ จำเกาะ เดินทางกลับถิ่นฐานของตัวเอง ได้มีการเรียกร้องให้ยัง หาญทะเล แข่งขันมวยไทย โดยพระยานนทิเสนสุเรนทรซื่อสัตย์ภักดี ได้กระทำการขอความเห็น กับข้าราชการชั้นสูง รวมทั้งเพื่อนฝูงที่เป็นพ่อค้าในสังกัดกรมท่าซ้าย จนกระทั่งยัง หาญทะเล

ได้โอกาสทดสอบมวย กับนักสู้คนจีน นามว่า จิ๊ฉ่าง ซึ่งพูดกันว่าเป็นนักมวยจีน คนประเทศฮ่องกงที่มีฝีมือกล้า โดยเป็นอาจารย์มวยจีน อยู่แถวสำเพ็ง ซึ่งทั้งสองแข่งกันใน วันมังกรสู้เสือ โดยสำหรับในการชิงชัยคราวนี้ มีวงปี่กลองของหมื่นสมัคร เสียงประจิต ปฏิบัติหน้าที่ ร้องเพลงดนตรี และก็ยัง หาญสมุทร เป็นข้างชนะ

ส่วนการแข่งขันชิงชัยระหว่าง ยัง หาญทะเล กับนิยม ทองคำชิตร ที่กระทรวงธรรมการ (หรือกระทรวงศึกษาธิการในขณะนี้) ที่ได้จัดขึ้น ผลที่ตามมายัง หาญสมุทร เป็นข้างแพ้ ยิ่งกว่านั้น เขายังเคยแข่งขันกับนักมวยจีน ชื่อ ไล่ หู ที่สนามสถานศึกษาสวนดอกกุหลาบ เมื่อ พุทธศักราช 2465 มวยไทยในตํานาน

อนึ่ง มีตำนานเอ๋ยถึงเรื่องที่กรมหลวงชุมพร เขตรอุดมศักดิ์ได้นำ ผ้าเจียดจากคุณครูศุข วัดมะขามเฒ่า มาแจกให้แก่นาวิกโยธิน แล้วก็ทรง ให้กระทำการทดสอบ คาถาอาคมสำหรับ ในการลงไปว่ายน้ำทะเลท่ามกลาง ฝูงปลาปลาฉลาม แต่ว่าไม่มีผู้ใดกล้าเสี่ยง นอกจากยัง หาญทะเล

ที่อาสาทดสอบ เขากระโจนจากเรือลงสู่ทะเล รวมทั้งสามารถยืนบนผิวน้ำ ทะเลท่ามกลางฝูงปลาปลาฉลาม ได้โดยไม่ได้รับอันตรายอะไร ก็ตามท่ามกลางสายตา ของเหล่าทหารเรือมาแล้วครั้งหนึ่ง

 

ยัง หาญทะเล

 

นักมวยไทยในอดีตยอดนักชกมวยไทยที่มีชื่อเสียงจนกลายเป็นตำนานในปัจจุบันลำดับที่4 นิล ปักษี

นิลกำพร้าบิดาแต่ว่ายังเด็ก นายนิลได้ฝึกฝนท่าร่ายรำมาบ้างน้อย แต่ว่าเมื่อนายนิลเติบโตเป็นชายหนุ่มขึ้นภายใต้การชุบเลี้ยงของแม่และก็ปู่ ได้ฝึกหัดมวยเพิ่มจากคุณครูนิน (บังเอิญชื่อคล้องจองกันแม้กระนั้นอาจารย์นินสะกดด้วย น.)ซึ่งเคยเป็นอาจารย์มวยบิดาของนายเพชรอีกครั้งหนึ่ง ทําเนียบยอดมวยสยามกีฬา

เมื่อเป็นชายหนุ่มสุดกำลังได้เริ่มชกมวยทีแรกที่ศาลาเก้าห้อง (ศาลาพักคนเดินทาง ที่พ่อคนเขียนสร้างให้เป็น สาธารณสมบัติ) ตำบลพุมเรียง คราวนั้นเป็นงานลากพระประจำปี นายนิลได้คู่ต่อยกับนายแพน บ้านปากท่อ ซึ่งเคยเข้ามาต่อยกับนักมวยจังหวัดโคราชถึงในจ.กรุงเทพฯ รูปร่างนักมวยทั้งสองฝ่าย

เป็นนายนิลและก็นายแพนพอวัดพอเหวี่ยงกัน รวมทั้งเป็นการต่อยคราวแรก ร่วมกันทั้งสอง การต่อสู้เป็นไปอย่างที่ เรียกว่าเผ็ดร้อนรุนแรง เป็นที่ถูกใจผู้ชมอย่างมาก ท้ายที่สุดปรากฏว่าเท่ากัน แม้กระนั้นมิตรสหาย ต่างจะต้องพยุงกัน กลับไปอยู่บ้าน ด้วยเหตุว่าต่างดวงตา ปิดดูไม่ปรารถนามองเห็นทางเท้า

ความสามารถเสมอกับนายปล่อง จำนงทอง ซึ่งถัดมาได้รับพระมหาความเอื้ออาทร กรุณาจากสมเด็จพระปิยะมหาราช รัชกาลที่ 5 ให้เป็นหมื่นมวยมีชื่อ เพราะว่าได้เป็นผู้ชนะมวยฝีมือยอดเยี่ยม ศิษย์พระเหมสมาหาร แรงเมืองโคราชหรือปรมาจารย์ใหญ่ ซึ่งได้ทำให้เมืองโคราช มีชื่อเสียงว่า “เมืองมวย” ทางข้างเหนือ แม้กระนั้นเจ้าผู้ครองเมืองไชยา มิได้นำของเขา เข้าจังหวัดกรุงเทพมหานครกับนายปล่อง จำนงทอง ตามที่ขาหนึ่ง

ของนายนิลลีบเล็ก พ่อของผู้เขียนเกรงจะถูกว่า กล่าวว่าคนร่างกาย สมประกอบทั่วเมืองไชยา ไม่มีแล้วหรือ ก็เลยได้นำนักมวยทุพพลภาพ มาต่อยหน้าพระที่นั่ง เหตุนี้ทำให้เจ้าตัว น้อยใจ แล้วก็พากเพียร เข้าจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อชกมวยหน้าใบหน้าพระเจ้าอยู่หัว โดยพละตัวเอง แต่ถ้าว่าเงิน 5 บาท ค่าใช้จ่ายในการใช้โดยสาร เรือเมล์ไปกลับรวมค่าของกิน 2 วัน 2 คืนไม่ได้ ก็เลยเสียโอกาสที่จะเป็น หมื่นเยี่ยงเพื่อนพ้องนักมวย ที่มีฝีมือทัดเทียมกัน

 

นักมวยไทยในอดีตยอดนักชกมวยไทยที่มีชื่อเสียงจนกลายเป็นตำนานในปัจจุบันลำดับที่5 สุวรรณ นิวาศวัต

เป็นนักมวยไทยมีชื่อในพระนครรุ่นเดียวกับบัว วัดอิ่ม บังสะเล็บ ศรไขว้ รวมทั้งโพล้ง เลี้ยงประเสริฐ เป็นลูกศิษย์ของหลวงพิพัฒน์พลกาย สุวรรณเคยต่อยชนะอีกทั้ง บัว วัดอิ่ม และก็โพล้ง เลี้ยงประเสริฐ มาแล้ว และก็เคยต่อยกับ แอ ม่วงดี 3 ครั้ง ชนะ 2 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง 

เมื่อมวยสากลหรือมวยฝรั่งเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยและก็เชิญชวนนักมวยสากลจากต่างประเทศมาต่อยโชว์อยู่เสมอๆตราบจนกระทั่งมีการเลือกเฟ้นนักมวยสากลชาวไทยขึ้นสังเวียนกับนักมวยพวกนั้น

สุวรรณสมัครใจขึ้นสังเวียนกับ เทอปรี่ โอคัมโป จากประเทศฟิลิปปินส์เป็นคู่แรกแม้กระนั้นไม่เป็นผลสำเร็จ เป็นข้างแพ้น็อคในยกที่ 4 เมื่อ 7 ธ.ค. พุทธศักราช 2472 สุวรรณเสียชีวิตเวลาที่ยังมีชื่อดังโดยถูกนักเลงอันธพาลรุมแทงเสียชีวิต ทําเนียบนักมวยไทย

นักมวยไทยในอดีต

 

>>>> ดูหนัง 2021

เดิมพันมวยออนไลน์

เว็บข่าวมวย